วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Game Online



ที่มาของรูปภาพ : www.game-ded.com

Game Online คืออะไร?
                เกมออนไลน์คือ เกมที่จะต้องเล่นผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งการที่จะเล่นเกมออนไลน์ได้นั้นเราจะต้องมีการเตรียมตัวดังนี้
     1. ติดตั้ง Client ตัวเกมออนไลน์ที่เราต้องการจะเล่นลงในเครื่อง PC ก่อน ซึ่งตัว Client เกมนั้นเราสามารถหาได้จากนิตยสารเกมรายสัปดาห์ หรือหนังสือบทสรุปของเกมต่างๆ ที่มักจะมีการแถมแผ่น Client ของเกมออนไลน์ติดมากับหนังสือ หรือจะดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ของตัวเกมออนไลน์เองก็ได้

     2. ต่ออินเตอร์เน็ต อย่างที่บอกไปแล้วว่าเกมออนไลน์เป็นเกมที่ต้องเล่นผ่านอินเตอร์เน็ตดังนั้นถ้าหากคุณไม่มีอินเตอร์เน็ตก็เล่นไม่ได้นะครับ

     3. สมัคร ID ของเกมออนไลน์ที่จะเล่น ทั้งนี้เนื่องจากตัวเกมออนไลน์จะมีการบันทึกข้อมูลการเล่นเกมของเราเก็บเอาไว้ที่ตัวเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งการที่จะเข้าถึงข้อมูลของตัวเองในเซิร์ฟเวอร์นั้นจะต้องทำการ Log In ด้วย ID และ Password ดังนั้น ID และ Password ของเราจึงเป็นสิ่งที่ต้องปิดเป็นความลับ ทั้งนี้หากสูญหายไปเราก็จะไม่สามารถเข้าไปเล่นเกมออนไลน์ได้ หรือหากถูกขโมยไปข้อมูลในตัวเกมรวมถึงไอเทมในเกมของตัวละครของเราอาจจะถูกทำให้สูญหายได้

     4. เติมค่าบริการเกมออนไลน์ สำหรับเกมออนไลน์นั้นผู้เล่นจะต้องเสียค่าบริการให้กับบริษัทผู้เปิดเซิร์ฟเวอร์เกมออนไลน์ โดยรูปแบบการเก็บค่าบริการในปัจจุบันจะมีอยู่ทั้งหมด 2 แบบคือ Air time และ Item Selling

                    4.1 Air Time เป็นการซื้อบัตรเติมเวลาเพื่อเล่นเกมออนไลน์ เปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดๆ ก็เหมือนๆ กับบัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือนั่นแหละครับ โดยหากเราไม่ได้เสียค่า Air Time ก็จะไม่สามารถเข้าเล่นเกมออนไลน์ได้ รูปแบบของบัตรเติม Airtime ก็จะมีอยู่ 2 ประเภท คือ เติมเป็นเป็นชั่วโมง และเติมเป็นวัน ส่วนใหญ่การเก็บค่าบริการแบบนี้จะเจอในเกมออนไลน์ประเภท MMORPG ตัวอย่างเช่น Ragnarok, LineageII, Mu Online เป็นต้น

                    4.2 Item Selling การเก็บค่าบริการแบบนี้ผู้เล่นสามารถเข้าเล่นเกมได้ฟรี แต่หากต้องการซื้อไอเทมบางอย่างมาใช้ในเกม จะต้องทำการเติมแต้มด้วยเงินจริง เพื่อนำแต้มเหล่านั้นไปใช้ซื้อไอเทมต่างๆ ส่วนใหญ่การเก็บค่าบริการแบบนี้จะเห็นในเกมออนไลน์ประเภท Casual Game เช่น Pangya, O2Jam, Last Chaos เป็นต้น

   5. หลังจาก Double Click เข้าที่ตัวเกมแล้ว จะเข้าสู่หน้าต่างเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของตัวเกม ซึ่งหากตัวเกมมีการอัพเดท patch ตัวเกมจะทำการดาวน์โหลด patch เหล่านั้นมาติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราโดยอัตโนมัติ แต่หากเราได้ทำการโหลด patch อัพเดทต่างๆ ครบแล้ว ก็จะสามารถเข้าสู่ตัวเกมได้ทันที

ข้อมูลอ้างอิง
http://planet.kapook.com

Edutainment


ที่มาของรูปภาพ : www.wisdomworldgroup.com

Edutainment คืออะไร?
               การเรียนรู้แบบศึกษาบันเทิง หรือ Edutainment (Education + Entertainment) เป็นการเรียนการสอนที่ผสมผสานหลายอย่างเข้าไว้ด้วยกัน คือ สื่อมัลติมีเดีย การจัดสภาพแวดล้อมห้องเรียน และกิจกรรมที่หลากหลายชนิด มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความสุขสนุกสนานในการเล่นปนเรียน (Play & Learn) เปลี่ยนบรรยากาศหรือรูปแบบเดิมๆ ที่เคยเรียน ตามแนวคิดที่ว่าสิ่งบันเทิงสามารถสร้างความสนใจได้มากกว่าการเรียนตามปกติ โดยที่อาจารย์จะเป็นเพียงผู้คอยอำนวยความสะดวกให้เท่านั้น

ข้อมูลอ้างอิง
http://www.gotoknow.org

E-Learning / Learning Management System / M-Learning





ที่มาของรูปภาพ : welovemy.blogspot.com
                            www.vensi.com 

E-Learning คืออะไร?
          E-Learning คือ การเรียน การสอนในลักษณะ หรือรูปแบบใดก็ได้ ซึ่งการถ่ายทอดเนื้อหานั้น กระทำผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์


Learning Management System คืออะไร?
          Learning Management System หรือระบบการจัดการเรียนรู้ เป็นซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่บริหารจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บ จะประกอบด้วยเครื่องมืออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สอน ผู้เรียน ผู้ดูแลระบบ โดยที่ผู้สอนนำเนื้อหาและสื่อการสอนขึ้นเว็บไซต์รายวิชาตามที่ได้ขอให้ระบบ จัดไว้ให้ได้โดยสะดวก ผู้เรียนเข้าถึงเนื้อหา กิจกรรมต่าง ๆ ได้โดยผ่านเว็บ ผู้สอนและผู้เรียนติดต่อ สื่อสารได้ผ่านทางเครื่องมือการสื่อสารที่ระบบจัดไว้ให้ เช่น ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ห้องสนทนา กระดานถาม - ตอบ เป็นต้น นอกจากนั้นแล้วยังมีองค์ประกอบที่สำคัญ คือ การเก็บบันทึกข้อมูล กิจกรรมการเรียนของผู้เรียนไว้บนระบบเพื่อผู้สอนสามารถนำไปวิเคราะห์ ติดตามและประเมินผลการเรียนการสอนในรายวิชานั้นอย่างมีประสิทธิภาพ

M-Learning คืออะไร?
       M-Learning (mobile learning) คือ การจัดการเรียนการสอนหรือบทเรียนสำเร็จรูป (Instruction Package) ที่นำเสนอเนื้อหาและกิจกรรมการเรียนการสอนผ่านเทคโนโลยีไร้สาย (wireless telecommunication network) และเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ผู้เรียนสามารถเรียนได้ทุกที่และทุกเวลา โดยไม่ต้องเชื่อมต่อโดยใช้สายสัญญาณ   ผู้เรียนและผู้สอนใช้เครื่องมือสำคัญ คือ อุปกรณ์ประเภทเคลื่อนที่ได้โดยสะดวก
และสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์โดยไม่ต้องใช้สายสัญญาณแบบเวลาจริง
ได้แก่  Notebook Computer, Portable computer, Tablet PC, Cell  Phones
ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน

ข้อมูลอ้างอิง
http://www.netthailand.com
http://www.kroobannok.com
https://sites.google.com

สารานุกรมออนไลน์


ที่มาของรูปภาพ : www.manager.co.th


สารานุกรมออนไลน์ คืออะไร?
       สารานุกรมออนไลน์ หรือ E-librar
Eduzones Library คือ สารานุกรมหรือแหล่งเรียนรู้ o­nline ทาง Internet ที่ผู้เข้าใช้สามารถค้นหาความหมายของคำหรือความรู้เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ทั่วไป ตามหมวดความรู้ของ E-library และยังสามารถให้ผู้เข้าใช้นำเรื่องราวต่างๆ ที่เป็นประโยชน์มาร่วมแบ่งปันให้กับผู้ใช้ท่านอื่นเข้ามาค้นหาได้อีกด้วย ซึ่งสารานุกรมนี้เปิดเสรีสำหรับทุกคนที่เข้ามาใช้งาน

ข้อมูลอ้างอิง
http://www.eduzones.com

webboard / Internet forum



ที่มาของรูปภาพ : wisarut23.blogspot.com 


webboard / Internet forum  คืออะไร?
       
               WebBoard คือโปรแกรมที่ทำหน้าที่ในลักษณะเป็น กระดานสนทนา เป็นกระดานแจ้งข่าวสาร ข้อมูล และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

                Internet Forum คือบริการหนึ่งบนอินเทอร์เน็ตสำหรับการแสดงความคิดเห็นหรืออภิปราย ทำให้เกิดชุมชนเสมือนจริง (virtual community) ซึ่งจะแยกหัวข้อการอภิปรายตามหัวข้อความสนใจเฉพาะกลุ่ม
Internet forums มีหลายชื่อเรียก เช่น web forums, message boards, discussion boards, discussion forums, discussion groups, bulletin boards

ข้อมูลอ้างอิง
http://www.mcp.ac.th
http://siriwana2.blogspot.com

Web search engine

 
ที่มาของรูปภาพ : semth.com

Web search engine คืออะไร?
      Search Engine เป็นเครื่องมือหรือโปรแกรมในการค้นหาเว็บต่างๆ โดยมีการเก็บรายชื่อเว็บไซต์ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่างๆ ของเว็บไซต์และนำมาจัดเก็บไว้ใน server เพื่อให้สามารถค้นหาและแสดงผลได้สะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้บาง search engine อาจไม่ได้มีการเก็บข้อมูลใน server ของตัวเอง แต่อาจอาศัยข้อมูลจากเจ้าของ server นั้นๆ

ตัวอย่าง Search Engine ที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เช่น sanook.com, google.com, yahoo.com, msn.com, altavista.com, search.com เป็นต้น

ข้อมูลอ้างอิง
http://www.nysiissolutions.com

File Transfer Protocol: FTP

 
ที่มาของรูปภาพ : pongpat.janthai.com

File Transfer Protocol: FTP คืออะไร?
     
         FTP ย่อมาจาก File Transfer Protocol คือ โปรโตคอลเครือข่ายชนิดหนึ่ง ถูกนำใช้ในการถ่ายโอนไฟล์ ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ อย่างการถ่ายโอนไฟล์ระหว่าง ไคลเอนต์ (client) กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็นแม่ข่าย เรียกว่า โฮสติง (hosting) หรือ เซิร์ฟเวอร์ ซึ่งทำให้การถ่ายโอนไฟล์ง่ายและปลอดภัยในการแลกเปลี่ยนไฟล์ผ่านอินเตอร์เน็ต การใช้ FTP ที่พบบ่อยสุด ก็เช่น การดาวน์โหลดไฟล์จากอินเทอร์เน็ต ความสามารถในการถ่ายโอนไฟล์ ทำให้ FTP เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคนที่สร้างเว็บเพจ ทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ โดยที่การติดต่อกันทาง FTP เราจะต้องติดต่อกันทาง Port 21 ซึ่งก่อนที่จะเข้าใช้งานได้นั้น จะต้องเป็นสมาชิกและมีชื่อผู้เข้าใช้ (User) และ รหัสผู้เข้าใช้ (password) ก่อน และโปรแกรมสำหรับติดต่อกับแม่ข่าย (server) ส่วนมากจะใช้โปรแกรมสำเร็จรูป เช่น โปรแกรม Filezilla,CuteFTP หรือ WSFTP ในการติดต่อ เป็นต้น

FTP แบ่งเป็น 2 ส่วน
1. FTP server  เป็นโปรแกรมที่ถูกติดตั้งไว้ที่เครื่องเซิฟเวอร์ ทำหน้าที่ให้บริการ FTP หากมีการเชื่อมต่อจากไคลแอนเข้าไป
2. FTP client  เป็นโปรแกรม FTP ที่ถูกติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์ของ user ทั่วๆไป ทำหน้าที่เชื่อมต่อไปยัง FTP server และทำการอัพโหลด ,ดาวน์โหลดไฟล์ หรือ จะสั่งแก้ไขชื่อไฟล์, ลบไฟล์ และเคลื่อนย้ายไฟล์ก็ได้เช่นกัน

ข้อมูลอ้างอิง 
http://www.mindphp.com

E-mail



 ที่มาของรูปภาพ www.blogsperu.com

E-mail คืออะไร?
           E-Mail ย่อมาจาก  EIectronic-Mail คือ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ที่ใช้รับส่งกันโดยผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (สำหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกคือ Internet )การใช้งานก็เหมือนกับเราพิมพ์ข้อความในโปรแกรม word จากนั้นก็คลิกคำสั่ง เพื่อส่งออกไป โดยจะมีชื่อของผู้รับ ซึ่งเราเรียกว่า E-mail Address เป็นหลักในการรับส่ง แต่ถ้าในกรณีที่เป็นการส่งอีเมล หรือข้อความโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้รับ เราเรียกว่า Spam  และเรียก อีเมลนั้นว่าเป็น spam mail

ประโยชน์ของ E-Mail
1.รวดเร็ว เชื่อถือได้
2.ประหยัดค่าใช้จ่ายในการส่ง และลดการใช้กระดาษ
3.ลดเวลาในการส่งเอกสารลง เพราะผู้ส่งไม่ต้องเสียเวลาไปส่งเอง หรือรอไปรษณีย์ไปส่งให้
4.ผู้ส่งสามารถส่งเอกสารได้ตลอดไม่จำกัดเวลา หรือระยะทางในการส่ง ในขณะที่ผู้อ่านก็สามารถเปิดอ่านเอกสารได้ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน
5.สามารถส่งต่อกันได้สะดวก และผู้ส่งสามารถส่งให้ผู้รับได้พร้อมๆกันหลายคนในเวลาเดียวกัน

ข้อมูลอ้างอิง 
 http://www.mindphp.com

E-Commerce


เปิดร้านค้าออนไลน์ E-Commerce
ที่มาของรูปภาพ : http://xn--b3cu3amfeb7cya4cgvj9mtc4d.com/%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%8C-e-commerce-1045/

E-Commerce  คืออะไร?
     
ความหมาย E-Commerce หรือ Electronic Commerce การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
              หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จุดเด่นของ E-Commerce คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่ม ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ โดยลดความสำคัญขององค์ประกอบของธุรกิจที่มองเห็นจับต้องได้ เช่นอาคารที่ทำการ ห้องจัดแสดงสินค้า (show room) คลังสินค้า พนักงานขายและพนักงานให้บริการต้อนรับลูกค้า เป็นต้น ดังนั้นข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์คือ ระยะทางและเวลาทำการแตกต่างกัน จึงไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจอีกต่อไป

อุปกรณ์และวิธีการทำ E-commerce
         อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศประกอบด้วย ระบบสื่อสารโทรคมนาคม ระบบคอมพิวเตอร์และระบบฐานข้อมูล ระบบสื่อสารอาจเป็นระบบพื้นฐานทั่วไป เช่นระบบโทรศัพท์ โทรสาร หรือวิทยุ โทรทัศน์ แต่ระบบอินเทอร์เน็ตซึ่งเชื่อมโยงถึงกันได้ทั่วโลก เป็นระบบเปิดกว้าง โดยเป็นระบบเครือข่ายของเครือข่าย ที่เรียกว่า world wide web มาจากความเป็นเอกลักษณ์คือสามารถสร้างให้มี hyperlink จากหน้าหนึ่งไปอีกหน้าหนึ่ง ไป webpage อื่น หรือไป website อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังสามารถสื่อได้ทั้งภาพ เสียง และภาษาหนังสือที่หลากหลายซับซ้อน สามารถมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกันได้ทันทีทันใด ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์สามารถบันทึกเก็บไว้หรือนำใช้ต่อเนื่องได้ การประยุกต์ใช้ และกระแสตอบรับธุรกิจบนอินเทอร์เน็ตจึงแพร่หลายภายในระยะเวลาอันสั้น
         E-Commerce ใช้ติดต่อกับลูกค้าได้หลายระดับ ธุรกิจกับลูกค้า ธุรกิจกับธุรกิจ ธุรกิจกับภาครัฐ ฯ สาระของการติดต่อจะมี 4-5 ประการ คือ
การขาย รวมการโฆษณา แสดงสินค้า เสนอราคา สั่งซื้อ คำนวณราคา
การชำระเงิน การตกลงวิธีชำระเงิน สั่งโอนเงิน ให้ข้อมูลบัญชีธนาคารที่ใช้ตัดบัญชี ตลอดจนเงินดิจิทัลรูปแบบใหม่ ๆ
การขนส่ง แจ้งวิธีการส่งมอบของ ค่าขนส่ง และสถานที่ติดต่อและระบบติดตามสินค้าที่ส่ง
บริการหลังการขาย การติดต่อภายในบริษัท เช่นระบบบัญชี คลังสินค้า ระบบสั่งซื้อสินค้าและวัตถุดิบ สั่งผลิต ตลอดจนบริการลูกค้าหลังการขาย




ข้อมูลอ้างอิง
 http://www.bot.or.th
 http://www.thaiwbi.com


Internet/Intranet



ที่มาของรูปภาพ www.kmitl.ac.th
Internet
         อินเทอร์เน็ต คืออะไร?
อินเทอร์เน็ต (Internet) มาจากคำว่า Inter และ net
1. อินเทอร์ (Inter) คือ ระหว่าง หรือท่ามกลาง
2. เน็ต (Net) คือ เครือข่าย (Network)
อินเทอร์เน็ต (Internet) 
คือ เครือข่ายนานาชาติ ที่เกิดจากเครือข่ายเล็ก ๆ มากมาย รวมเป็นเครือข่ายเดียวกันทั้งโลก
คือ เครือข่ายสื่อสาร ซึ่งเชื่อมโยงกันระหว่างคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ที่ต้องการเข้ามาในเครือข่าย
คือ การเชื่อมต่อกันระหว่างเครือข่าย
คือ เครือข่ายของเครือข่าย

       เครือข่ายอินเทอร์เน็ตจึงทำให้เกิดชุมชนแห่งใหม่ ที่มีผู้คนมากหน้า
หลายตามารวมตัวกัน โดยอาศัยคอมพิวเตอร์เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสาร
คอมพิวเตอร์ที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตมีตั้งแต่เครื่องขนาดเล็ก ไปจนถึงเครื่อง
คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เก็บข้อมูลมหาศาลไว้ในตัวของมันเอง ซึ่งผู้ใช้คนอื่นๆ
สามารถเรียกอ่านข้อมูลนี้ได้ ที่เรียกว่าเว็บหรือเว็บไซต์ เว็บไซต์แต่ละอัน
ก็เปรียบเสมือนหนังสือแต่ละเล่ม ที่มีทั้งรูปภาพ เสียงพูด เสียงดนตรี หรือหนังสั้นๆ
บรรจุอยู่ภายใน ขึ้นอยู่กับผู้เขียนหนังสือ (ซึ่งก็คือผู้เขียนเว็บไซต์) ว่าได้วาง
รูปแบบการนำเสนอข้อมูลในหนังสือของตนอย่างไร
      ระบบอินเทอร์เน็ตคล้ายคลึงกับระบบโทรศัพท์ คือเครือข่ายคอมพิวเตอร์
หลายๆ อันเชื่อมโยงกันหมดเหมือนใยแมงมุม เมื่อเราเข้าใช้ระบบอินเทอร์เน็ต
ของบริษัทหนึ่ง ก็สามารถติดต่อข้ามไปยังอินเทอร์เน็ตของบริษัทอื่นได้
เช่นเดียวกับระบบโทรศัพท์ เราสามารถคุยกับเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศได้
นั่นเพราะเครือข่ายโทรศัพท์ไทยเชื่อมโยงกับเครือข่ายโทรศัพท์ต่างประเทศอยู่
ข้อมูลอ้างอิง
 http://www.thaiall.com/article/internet.htm
 หนังสือ อินเทอร์เน็ต...เข้าใจง่าย โดย พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน และ ศรีดา ตันทะอธิพานิช

Intranet
            อินทราเน็ต คืออะไร?
อินทราเน็ต คือ ระบบเครือข่ายซึ่งใช้กันเฉพาะภายใน โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกับอินเทอร์เน็ตและใช้โปรโตคอลเดียวกัน ด้วยลักษณะการใช้งานที่เฉพาะภายในกลุ่มจึงทำให้อินทราเน็ตมีความปลอดภัยสูง มักถูกนำเอาไปใช้งานกับองค์กร บริษัท หรือหน่วยงานต่างๆในการจัดการภายใน ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บเอกสาร การเผยแพร่ข่าวสาร ระบบเงินเดือน ห้องสนทนา และอื่นๆอีกมากมาย
อินทราเน็ต, เอ็กซ์ทราเน็ต
ข้อมูลอ้างอิง
 http://xn--m3cdfb3c1cwbm6i1c.blogspot.com/

Internet และ Intranet แตกต่างกันอย่างไร 

              อินเทอร์เน็ต (Internet) อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วโลก ซึ่งมีคอมพิวเตอร์เป็นล้าน ๆ เครื่องเชื่อมต่อเข้ากับระบบและยังขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี อินเทอร์เน็ตมีผู้ใช้ทั่วโลกหลายร้อยล้านคน และผู้ใช้เหล่านี้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันได้อย่างอิสระ โดยที่ระยะทางและเวลาไม่เป็นอุปสรรค นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเข้าดูข้อมูลต่าง ๆ ที่ถูกตีพิมพ์ในอินเทอร์เน็ตได้ อินเทอร์เน็ตเชื่อมแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เข้าด้วยกัน

              อินทราเน็ต ตรงกันข้ามกับอินเทอร์เน็ต อินทราเน็ตเป็นเครือข่ายส่วนบุคคลที่ใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต เช่น เว็บ, อีเมล, FTP เป็นต้น อินทราเน็ตใช้โปรโตคอล TCP/IP สำหรับการรับส่งข้อมูลเช่นเดียวกับอินเทอร์เน็ต ซึ่งโปรโตคอลนี้สามารถใช้ได้กับฮาร์ดแวร์หลายประเภท และสายสัญญาณหลายประเภท ฮาร์ดแวร์ที่ใช้สร้างเครือข่ายไม่ใช่ปัจจัยหลักของอินทราเน็ต แต่เป็นซอฟต์แวร์ที่ทำให้อินทราเน็ตทำงานได้ อินทราเน็ตเป็นเครือข่ายที่องค์กรสร้างขึ้นสำหรับให้พนักงานขององค์กรใช้เท่านั้น การแชร์ข้อมูลจะอยู่เฉพาะในอินทราเน็ตเท่านั้น หรือถ้ามีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับโลกภายนอกหรืออินเทอร์เน็ต องค์กรนั้นสามารถที่จะกำหนดนโยบายได้ ในขณะที่การแชร์ข้อมูลอินเทอร์เน็ตนั้นยังไม่มีองค์กรใดที่สามารถควบคุมการแลกเปลี่ยนข้อมูลได้

ข้อมูลอ้างอิง
 http://km-a1.blogspot.com/2010/01/blog-post_9235.html

วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ความหมายและอธิบาย Hardware, Software และ Peopleware


ที่มาของรูปภาพ : http://computerchroniclestv.com/category/computer-hardware-accessories

Hardware หมายถึง
                 อุปกรณ์ต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ มีลักษณะเป็นโครงร่างสามารถมองเห็นด้วยตาและสัมผัสได้ (รูปธรรม) เช่น จอภาพ คีย์บอร์ด เครื่องพิมพ์ เมาส์ เป็นต้น ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ตามลักษณะการทำงาน ได้ 4 หน่วย คือ หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU) หน่วยแสดงผล (Output Unit) หน่วยเก็บข้อมูลสำรอง (Secondary Storage) โดยอุปกรณ์แต่ละหน่วยมีหน้าที่การทำงานแตกต่างกัน
ข้อมูลอ้างอิง
 http://www.pbps.ac.th

Software หมายถึง
              ชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ใช้สั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ซอฟต์แวร์จึงหมายถึงลำดับขั้นตอนการทำงานที่เขียนขึ้นด้วยคำสั่งของคอมพิวเตอร์ คำสั่งเหล่านี้เรียงกันเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จากที่ทราบมาแล้วว่าคอมพิวเตอร์ทำงานตามคำสั่ง การทำงานพื้นฐานเป็นเพียงการกระทำกับข้อมูลที่เป็นตัวเลขฐานสอง ซึ่งใช้แทนข้อมูลที่เป็นตัวเลข ตัวอักษร รูปภาพ หรือแม้แต่เป็นเสียงพูดก็ได้

ข้อมูลอ้างอิง
 http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/software/software/

Peopleware หมายถึง
               บุคลากรในงานด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งาน สั่งงานเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ต้องการ
ข้อมูลอ้างอิง
 http://gybzy0723.blogspot.com/2009/03/peopleware.html
           

วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ความหมายและอธิบาย GPRS, 3G และ GPS


GPRS คืออะไร
          - เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นบนเครือข่ายเดิม เพื่อให้การส่งข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็ว และสะดวกยิ่งขึ้น
          - เทคโนโลยีการส่งข้อมูลแบบรวดเร็ว ซึ่งใช้ได้กับเครือข่ายระบบ GSM ช่วยเพิ่มความรวดเร็วให้กับการติดตั้ง และทำให้ระยะเวลาในการส่งข้อมูลรวดเร็วยิ่งขึ้น
          - เทคโนโลยีที่สร้างขึ้นมาเพื่อการใช้ Mobile Internet ด้วยความสะดวกยิ่งขึ้น ทำให้ท่านสามารถทำธุรกรรมต่างๆ ได้อย่างสะดวก และง่ายดายผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่
          - นวัตกรรมใหม่ที่ทำให้การส่งข้อมูลมีประสิทธิภาพ ด้วยความเร็วจากเดิมเพียงแค่ 9.6 Kbps เป็น 40 Kbps ช่วยให้ท่านสามารถเชื่อมต่อทางอินเตอร์เน็ตได้ภายในเวลาอันสั้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เมื่อไหร่
          - การส่งข้อมูลแบบใหม่ในรูปแบบของมัลติมีเดีย ซึ่งจะประกอบไปด้วยรูปภาพที่เป็นกราฟฟิก เสียงและวิดีโอ เช่นการใช้ Video Conference

ข้อมูลอ้างอิง
http://www.com5dow.com

3G คืออะไร
      3G ก็เปรียบเสมือน “อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนโทรศัพท์มือถือ” นั่นเอง
นอกเหนือไปจากการใช้งานโทรศัพท์มือถือเพื่อการสนทนา หรือส่งข้อความแล้ว การติดต่อทางอินเทอร์เน็ต ผ่านเครือข่ายสังคม (Social Network) และใช้งานบริการต่าง ๆ ที่ปกติเคยมีแต่บนคอมพิวเตอร์ อย่างอีเมลและการแชท (Chat) ก็แพร่หลายมาตั้งแต่ยุค 2G จนกลายเป็นการใช้งานหลักบนโทรศัพท์มือถือในทุกวันนี้ไปเสียแล้ว

iPhone รุ่นแรก ถือกำเนิดขึ้นมาในปี 2007 ซึ่ง 3G ยังเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่มากในขณะนั้น แม้แต่สหรัฐฯเอง 3G ก็ไม่ได้เป็นที่นิยมนัก เพราะด้วยเทคโนโลยีที่ยังไม่เร็วพอ กับราคารายเดือนที่สูงอยู่
ดังนั้น กว่า iPhone จะเริ่มรองรับ 3G ก็ปาไปรุ่นที่สองในปี 2008 หรือใน iPhone 3G นั่นเอง

เมืองไทยเองก็เพิ่งจะได้ใช้ 3G จริง ๆ จัง ๆ ในปีนี้ เมื่อ dtac และ AIS เริ่มให้บริการ 3G ในเขตเมืองใหญ่ อาทิ กรุงเทพฯและปริมณฑล เป็นต้น

ผังแสดงรายละเอียดเครือข่าย
ที่มาข้อมูลและรูปภาพ : http://iphonesociety.com/buyer-guide/introducing-3g-part-1

GPS คืออะไร
         จีพีเอส (GPS) เป็นระบบหาพิกัดบนพื้นโลกโดยการอ้างอิงจากดาวเทียมที่มีความแม่นยำสูงสามารถใช้หาพิกัดใดๆ บนพื้นโลก ได้ ทุกเวลา ทุกสภาพอากาศ ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีที่เริ่มเข้ามาบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น มีการนำไปใช้ในกิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น การช่วยวางแผนเดินทางด้วยแผนที่(โดยรถยนต์) ระบบติดตามตำแหน่งบนพื้นผิวโลก
ข้อมูลอ้างอิง
 http://citecclub.org

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ศัพท์ IT วันนี้


ศัพท์ IT วันนี้ 

Web page หมายถึง หน้าใดหน้าหนึ่งของเว็บไซต์ ที่แสดงข้อมูลต่างๆ ประกอบด้วยข้อความ  ภาพ  เสียง วิดีโอ  และภาพเคลื่อนไหวแบบมัลติมีเดีย

Web Site หมายถึง หน้าเว็บเพจหลายหน้า ซึ่งเชื่อมโยงกันผ่านทางไฮเปอร์ลิงก์ ส่วนใหญ่จัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ โดยถูกจัดเก็บไว้ในเวิลด์ไวด์เว็บ

Homepage หมายถึง หน้าแรกหรือหน้าหลักของเ้ว็บไซต์

Upload หมายถึง การส่งข้อมูลออกไป เช่น การโอนข้อมูลจากเครื่องเราลงอินเทอร์เน็ต

Download หมายถึง การรับข้อมูลเข้ามา เช่น การที่เรารับข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตลงเครื่่อง

Browser หมายถึง เครื่ิองมือที่ช่วยให้เราสามารถท่องโลกอินเทอร์เน็ตได้ เช่น Internet Explorer, Google Chrome, Mozilla FireFox , Safari

Mbps  ย่อมาจาก Mega bit per second เป็นหน่วยของความเร็วของ Internet ที่นิยมใช้ เป็นหน่วยที่ใช้วัดอัตราความเร็วในการส่งหรือรับข้อมูลต่อ 1 วินาที ซึ่งหมายถึงหนึ่งล้านบิตต่อวินาที เป็นการวัด Bandwidth (การไหลรวมของสารสนเทศในเวลากำหนด) บนตัวกลางโทรคมนาคม

html หมายถึง ภาษาที่ใช้ในการเขียนเว็บเพจ ย่อมาจากคำว่า Hypertext Markup Language

php หมายถึง เป็นภาษาสำหรับใช้ในการเขียนโปรแกรมบนเว็บไซต์ สามารถเขียนได้หลากหลายโปรแกรมเช่นเดียวกับภาษาทั่วไป

asp Active Server Page (ASP) เป็นเพจ HTML ที่รวบรวมคำสั่งสคริปต์ (script) หนึ่งหรือมากกว่าที่ประมวลผลบน Microsoft web server ก่อนที่เพจจะส่งไปยังผู้ใช้

html 5 หมายถึง ภาษามาร์กอัป ที่ใช้สำหรับเขียน website ซึ่งพัฒนาต่อมาจาก HTML

Web Application หมายถึง โปรแกรมประยุกต์ที่เข้าถึงด้วยโปรแกรมค้นดูเว็บผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์อย่างอินเทอร์เน็ตหรืออินทราเน็ต

วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ


คอมพิวเตอร์  (Computer)


             คอมพิวเตอร์ หมายถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานด้วยความเร็วสูง สามารถจดจำข้อมูลต่างๆได้เป็นอย่างดี ช่วยในการทำงานของมนุษย์ในการประมวลผลข้อมูลการคำนวณต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทำหน้าที่เหมือนสมองกล ใช้สำหรับแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่ง่ายและซับซ้อนโดยวิธีทางคณิตศาสตร์


เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology)
 
            เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง เทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การรวบรวมการจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล การพิมพ์ การสร้างรายงาน การสื่อสารข้อมูล ฯลฯ เทคโนโลยีสารสนเทศยังรวมถึงเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดระบบการให้บริการ การใช้ และการดูแลข้อมูลด้วย

ข้อมูลอ้างอิง
 http://www.ops.go.th














วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร


 
ที่มาของรูปภาพ : http://www.zoneza.com/view3833.htm
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
หมายถึง ข้อมูลที่ได้ถูกผ่านกระบวนการต่างๆกลั่นกรองมาเป็นข้อมูลสารสนเทศ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีและการสื่อสาร อาจเรียกได้ว่าเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารนับตั้งแต่การสร้าง การนำมาวิเคราะห์หรือประมวลผล การรับและส่งข้อมูล การจัดเก็บและการนำไปใช้ใหม่
ข้อมูลอ้างอิง
 http://www.l3nr.org/posts/179976

วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต

1.ค้นคว้าหาความรู้
2.หาข้อมูลในเรื่องที่สนใจ
3.หาสื่อมีเดียช่วยในการจัดการเีรียนการสอน
4.ค้นหารูปภาพที่สนใจ
5.เป็นสื่อกลางในการสื่อสารกับผู้คนทั่วโลกผ่านแอพพิเคชั่นต่าง ๆ
6.ติดตามข้อมูลข่าวสารได้สะดวกและรวดเร็ว
7.ใช้เป็นสื่อประชาสัมพันธ์ได้สะดวกและรวดเร็ว
8.ใช้ศึกษาขั้นตอนวิธีการต่างๆในเรื่องที่สนใจ
9.ใช้คอมพิวเตอร์ในการเก็บข้อมูลต่าง ๆ
10.ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงาน/ชิ้นงาน


















 ที่มาของรูปภาพ : http://stvcomputer.com/